ในปัจจุบันอินเทอร์เน็ตได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของผู้คน ทั้งการส่วนตัวที่บ้าน ใช้ร่วมกันในออฟฟิศอำนวยความสะดวกในเรื่องเอกสารอิเล็กทรอนิกส์หรือการประชุมแบบ Video Conference ไปจนถึงกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ ดังนั้นการขยายเครือข่ายอินเทอร์เน็ตให้การสื่อสารไม่สะดุดผู้ใช้งานจึงต้องติดตั้งสายแลนที่มีประสิทธิภาพ และเลือกประเภทให้เหมาะสมกับการใช้งานอีกด้วย
ระบบแลน คืออะไร
ระบบแลน หรือ Local Area Network (LAN) คือ ระบบเชื่อมต่อระหว่างเครือข่ายกับคอมพิวเตอร์โดยตรงในระยะที่กำหนด ส่วนใหญ่จะใช้อุปกรณ์อย่างสายเคเบิลหรือที่รู้จักกันคือ สายแลน เป็นตัวช่วยในการเชื่อมต่อสัญญาณ อีกทั้งยังค่อนข้างใช้ได้ในระยะที่จำกัด เช่น การติดตั้งสายแลนในอาคารเดียวกันหรือในบริเวณใกล้กันที่สามารถเดินสายแลนได้
รูปแบบการเชื่อมเครือข่ายของระบบแลน
รูปแบบของการเชื่อมต่อเครือข่ายเมื่อจะเดินสายแลนมีอยู่ 3 รูปแบบ ได้แก่
1. เดินสาย Lan แบบ Bus
การเดินสายแลนแบบนี้จะมีอัตราการรับส่งข้อมูลอยู่ที่ระหว่าง 10-100 mb/s เชื่อมต่อบนสายสัญญาณเดียวกัน T-Connector เป็นอุปกรณ์ตัวแปลงช่วยนำส่งข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์และ Terminator ที่มีการปิดหัวท้ายตรงสายเพื่อไม่ให้สัญญาณเกิดการสะท้อนกลับ
2. เดินสาย Lan แบบ Star
การเดินสายแลนรูปแบบนี้คือ การทำแบบมีศูนย์กลาง โดยจะมีอุปกรณ์ที่เรียกว่า Hub หรือ Switch โดยทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางกระจายข้อมูล ซึ่งสายคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องจะถูกเชื่อมต่อที่ศูนย์กลางนี้ ข้อดีของการเดินสายแลนรูปแบบนี้คือเมื่อสัญญาณในคอมพิวเตอร์เครื่องใดเครื่องหนึ่งขาดหายก็จะไม่กระทบกับเครื่องอื่นๆ แต่ถ้าศูนย์กลาง Hub หรือ Switch เสียหายทั้งระบบก็จะไม่สามารถทำงานได้
3. เดินสาย Lan แบบ Ring
รูปแบบนี้จะมีการส่งข้อมูลไปทางเดียวกันผ่านเครื่อง Server หรือ Switch ที่จะตรวจสอบว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ไหนต้องการจะส่งข้อมูลบ้าง และในระหว่างนั้นหากมีเครื่องอื่นที่ต้องส่งข้อมูลก็จะต้องรอการส่งข้อมูลก่อนหน้าให้เสร็จสิ้นเสียก่อน
การติดตั้งสายแลนในแต่ละสถานที่
การติดตั้งสายแลนในแต่ละสถานที่จะต้องคำนึงถึงจุดประสงค์ในการใช้งาน เพื่อเลือกรูปแบบการเดินสาย Lanได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพในการใช้งาน
1. เดินสายแลนในบ้าน
สำหรับบ้านเป็นสถานที่ยอดนิยมที่ใครๆ ก็ต้องใช้อินเทอร์เน็ตและการเดินสายแลนเพื่อใช้งานโดยตรงก็ถือว่าเหมาะกันการใช้งานกับคอมพิวเตอร์ที่มีจำนวนน้อย อีกทั้งยังช่วยให้การทำงานของอินเทอร์เน็ตรวดเร็วกว่าการติด Wi-Fi เสียอีก
2. เดินสายแลนสำหรับใช้ในอาคาร
สำหรับการเดินสายแลนภายในอาคารหรือธุรกิจขนาดเล็ก เช่น โฮมออฟฟิศ ที่ไม่ควรละเลยระบบการจัดวางหรือเดินสายLanให้เป็นระเบียบง่ายต่อการปรับปรุงแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้น และควรให้มี Access point แบบกระจายหลายพื้นที่เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต
3. เดินสายแลนสำหรับองค์กรขนาดใหญ่
สำหรับองค์กรขนาดใหญ่จะมีระบบที่ซับซ้อนมากที่สุด ซึ่งมักจะใช้สายแลนแบบศูนย์กลาง Hub หรือ Switch ที่ต้องกระจายการทำงานและส่งข้อมูลให้กับหลายคอมพิวเตอร์พร้อมๆ กัน จึงต้องให้ความสำคัญกับการเดินสาย Lan ตั้งแต่ครั้งแรก
4. เดินสายแลนด้านนอกอาคาร
อีกหนึ่งสถานที่ที่ต้องเดินสายLanก็คือด้านนอกตัวอาคาร ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้กับการติดตั้งกล้องวงจรปิด หรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่ต้องใช้ระบบออนไลน์จึงต้องใช้ระบบแลนควบคู่กันด้วย ดังนั้นเมื่อต้องอยู่นอกอาคารที่ต้องทนทานต่อสภาพอากาศจึงควรเลือกวัสดุที่มีคุณภาพและเหมาะสมมากกว่าสถานที่อื่น
สรุป
ก่อนจะตัดสินใจติดตั้งสายแลนควรจะศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือชนิดของสายแลน ตำแหน่งของการเดินสายLan หรือวัสดุของสายแลนที่เหมาะสมกับสถานที่ นอกจากนี้ยังต้องเลือกสายแลนให้สอดคล้องกับความต้องการ อำนวยความสะดวกในการใช้งานทั่วทุกบริเวณและต้องคำนึงถึงความจำเป็นในการใช้งานสำหรับคุณหรือขนาดของธุรกิจอีกด้วย
FAQ เกี่ยวกับ การติดตั้งสายแลน
ข้อดีของระบบแลน?
- เมื่อสายแลนที่มีระบบการทำงานแบบเดียวกันก็จะสามารถใช้อุปกรณ์ร่วมกันได้หลากหลายชนิด เช่น คอมพิวเตอร์ Printer หรือ Scanner จึงทำให้ประหยัดค่าใช้จ่าย
- การถ่ายโอนข้อมูลง่ายและรวดเร็วมากกว่าแบบเดิม เช่น แผ่นดิสเก็ต
- ระบบแลนถือว่าเป็นระบบขั้นพื้นฐานของการใช้งานอินเทอร์เน็ต
สายแลนมีกี่ประเภท?
สายแลนแต่ละประเภทจะสามารถรับส่งข้อมูลในความเร็วที่แตกต่างกัน ได้แก่
- สายแลน Cat5 : สายแลนรุ่นเก่าเหมาะกับการใช้งานทั่วไป เพราะมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 100 Mbps
- สายแลน Cat5e : สายแลนรุ่นนี้เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการความเร็วสูง เพราะมีความเร็วสูงสุด 1 Gbps
- สายแลน Cat6 : รุ่นมาตรฐาน เหมาะกับการใช้งานความเร็วสูงมาก เพราะมีความเร็วสูงสุด 10 Gbps
Hellopine (เฮลโหลไพน์) เราคือที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีที่ให้บริการโซลูชันไอทีครบวงจรสำหรับบ้านพักอาศัย สำนักงาน โรงงาน โรงแรม และ รีสอร์ต หากคุณต้องการคำแนะนำด้าน วางระบบ IT Network สำหรับองค์กร หรือบริการทางไอทีอื่น ๆ ติดต่อ Hellopine เพื่อรับคำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญ โทร 02-100-5073 หรือทางเว็บไซต์ www.hellopine.com