ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้ ธุรกิจทุกขนาดต้องพึ่งพา IT Network เพื่อแข่งขันให้ธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคง และ Data Center ได้กลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญสำหรับการจัดเก็บ ประมวลผล และบริหารจัดการข้อมูลจำนวนมหาศาลในองค์กร แต่หลายองค์กรกลับเข้าถึงเทคโนโลยีนี้ ในบทความนี้ จึงรวมสาระน่ารู้ของระบบ IT ดังกล่าวมาบอกต่อ อ่านได้ ที่นี่
ทำความเข้าใจบทบาทของ Data Center กับการขับเคลื่อนธุรกิจ
จากที่กล่าวไปข้างต้นว่าปี 2025 ทุกธุรกิจใช้ IT Network เพื่อแข่งขันกันก้าวหน้า แล้วการเก็บข้อมูลลูกค้า ระบบบัญชี การสื่อสารภายในบริษัท หรือแม้แต่การประมวลผล AI เป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาองค์กร ถ้าไม่มีระบบ IT ที่ชื่อว่า Data Center ที่ดี ระบบทั้งหมดก็อาจล่มได้ง่ายมาก ทำให้เสียโอกาสทางธุรกิจหรือเกิดความเสียหายร้ายแรง ทว่าการวางระบบ Network ที่ดีในองค์กร นั้น มี 3 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้
- On-premises คือ การสร้าง Data Center อยู่ในพื้นที่ขององค์กร ทำให้องค์กรสามารถควบคุมได้ทุกอย่าง ทำให้สนองความต้องการได้ดี แต่จะใช้งบประมาณและพนักงานดูแลระบบเยอะ
- Colocation คือ การนำอุปกรณ์ของ IT Network ของบริษัทที่ให้บริการ มาวางในองค์กร ซึ่งการทำแบบนี้ องค์กรไม่ต้องจ้างพนักงานวางระบบ Network และดูแลโครงสร้างพื้นฐาน
- Cloud คือ ใช้บริการ Network สำหรับองค์กร แบบออนไลน์ เช่น AWS, Azure, Google Cloud เป็นต้น โดยระบบข้างต้น ไม่ต้องดูแลเยอะ จ่ายเท่าที่ใช้งาน จึงประหยัดต้นทุนได้ดี
ทว่าในการเลือก Network สำหรับองค์กร นั่น จะต้องเลือกประเภทให้เหมาะกับรูปแบบธุรกิจขององค์เป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะมีผลต่อทั้งค่าใช้จ่าย ความยืดหยุ่น ความปลอดภัยของระบบมาเกี่ยวข้องด้วย และตัวอย่าง ธุรกิจที่ใช้ Data Center
- E-commerce ธุรกิตต้องการระบบที่ทำงานได้ตลอด 24/7 รองรับผู้ใช้พร้อมกันจำนวนมาก
- การเงินการธนาคาร ต้องการความปลอดภัยสูงและการสำรองข้อมูลแบบตลอด 24 ชั่วโมง
- สุขภาพ เก็บข้อมูลผู้ป่วยจำนวนมาก IT Network ต้องมีความปลอดภัยตามกฎหมาย
- โลจิสติกส์ ต้องเชื่อมโยงข้อมูลหลายระบบแบบวินาทีต่อวินาที เช่น สต๊อกสินค้า เส้นทางขนส่ง ฯลฯ
ปัจจัยที่ต้องพิจารณาก่อนลงทุนใน Data Center
ด้วยความที่ IT Network นั้น มีหลายประเภทมาก แล้วแต่ละธุรกิจก็มีการดำเนินงานแตกต่างกัน ดังนั้นองค์กรจะต้องพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ประกอบวางระบบ Network Data Center มาใช้งาน เพื่อให้ได้ประโยชน์และความคุ้มค่าสูงสุด มี 3 ปัจจัยที่ต้องพิจารณา ดังนี้
1. ความต้องการใช้งานของธุรกิจ
ก่อนจะลงทุนระบบ IT ใด ต้องประเมินว่าองค์กรต้องการใช้ระบบขนาดไหน เช่น ต้องรองรับผู้ใช้กี่คน ต้องประมวลผลเร็วแค่ไหน และสามารถขยายระบบในอนาคตได้ง่ายหรือไม่ การวางแผนตรงนี้ จะช่วยลดปัญหาการอัปเดตเทคโนโลยีใหม่ และการเสียเงินซ้ำซ้อนได้
2. ต้นทุนเริ่มต้นและค่าใช้จ่ายระยะยาว
การสร้าง Data Center เอง ย่อมมีค่าใช้จ่ายสูงมาก ทั้งค่าก่อสร้างวางระบบ Network ค่าอุปกรณ์ ค่าระบบไฟฟ้า-แอร์ และค่าดูแลรักษา ดังนั้นธุรกิจที่งบน้อย เป็นองค์กรเล็ก ๆ เพิ่งเติบโต ถึงจะเลือกเช่าหรือใช้ Cloud ก็มีค่าใช้จ่ายระยะยาวเช่นกัน ต้องดูว่าโมเดลไหนเหมาะกับงบประมาณและแผนธุรกิจในระยะยาวมากกว่า
3. ความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานและบุคลากรด้าน IT
ต่อให้มีเทคโนโลยีดีเลิศแค่ไหน ถ้าบุคลากรที่ใช้งานไม่มีความเชี่ยวชาญมากพอ ก็มีโอกาสที่จะขาดทุน ใช้งาน Data Center ได้ไม่คุ้มเสีย ดังนั้นทีมระบบ IT ที่ดี และระบบไฟฟ้าสำรอง อินเทอร์เน็ตเร็ว จะต้องมีให้พร้อม เป็นโครงสร้างพื้นฐานในวางระบบเลย ถ้ายังมีไม่ครบทุกอย่าง ควรมองหาระบบออนไลน์มาใช้งานก่อนได้
เลือกโมเดลการลงทุนที่เหมาะสม
Data Center มีหลายโมเดลมาก แต่ละโมเดลมีข้อดีและข้อจำกัดแตกต่างกัน ซึ่งข้อมูลนี้ เป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกวางระบบ IT ให้เหมาะสมกับองค์กร ซึ่งแต่ละโมเดลจะเป็นอย่างไร อ่านรายละเอียดได้ ที่นี่
- สร้างเอง เป็นระบบที่องค์กรสามารถควบคุมการทำงานของ Data Center ได้ทั้งหมด รวมไปถึงปรับแต่งได้ตามใจ ทว่า Network สำหรับองค์กร นี้ ต้นทุนสูง และใช้พนักงานเยอะ
- เช่า Colocation จะช่วยประหยัดค่าโครงสร้างพื้นฐานได้ โดยที่องค์กรยังควบคุมอุปกรณ์ได้เองด้วย แต่องค์กรจ้องจ้างพนักงานมาดูแล IT Network บ้าง บางส่วน ไม่เยอะมาก
- ใช้ Cloud จะเป็นระบบออนไลน์ที่ให้ความยืดหยุ่นสูงมาก เพราะองค์กรใช้งาน Data Center แค่ไหน ก็จ่ายแค่นั้น ถ้าที่จ่ายไปไม่พอใช้งาน ก็แค่จ่ายเงินเพิ่มระบบเอง ทว่าการใช้งานบอาจจะไม่ตอบโจทย์ 100% เพราะเป็นระบบสำเร็จ การบริการก็ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการระบบนั่นเอง
และในปี 2025 นี้ กระแส Network สำหรับองค์กร ในรูปแบบ Hybrid มาแรงมาก เพราะเป็นการผสมผสานระหว่าง On-premises และ Cloud มาไว้ด้วยกัน เพื่อให้สนองความต้องการของแต่ละองค์กรได้ดีกว่าที่ผ่านมา เช่น ระบบหลักเก็บไว้ในสำนักงาน แต่สำรองข้อมูลขึ้น Cloud หรือเอาระบบ IT ที่ใช้บ่อยขึ้น Cloud เพื่อความเร็วและความยืดหยุ่น วิธีนี้ช่วยบาลานซ์ค่าใช้จ่าย ความปลอดภัย และความเร็วได้ดี เป็นต้น
กลยุทธ์เพิ่มความคุ้มค่าในการลงทุน Data Center
การกระตุ้นให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมั่นคงในยุคที่เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญแบบนี้ การวางแผนลงทุนกับ Data Center เป็นสิ่งที่ควรทำ เพราะทำให้องค์กรโตเร็ว และเงินทุนน้อย โดยกลยุทธ์การวางแผนใช้งานระบบ IT ดังกล่าว มี 3 ข้อน่าสนใจ ดังนี้
- การวางแผนระยะยาวและการเลือกเทคโนโลยีที่อัปเกรดได้ Data Center ไม่ใช่อะไรที่ลงทุนปีเดียวแล้วจบ ควรวางแผนวางระบบ Network ให้สามารถอัปเกรดหรือขยายระบบในอนาคต ได้ง่าย เช่น เลือกอุปกรณ์ที่สามารถเพิ่ม storage ได้ หรือระบบที่รองรับ virtualization รวมถึงเผื่อแผนสำรองเผื่อธุรกิจเติบโตเร็วเกินคาด ฯลฯ
- การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เรื่องพลังงานเป็นต้นทุนแฝงที่หลายองค์กรมองข้าม แต่จริง ๆ แล้วระบบแอร์ ระบบไฟฟ้าใน Data Center ใช้ไฟเยอะมาก ถ้าเลือกใช้อุปกรณ์ IT Network ประหยัดพลังงาน หรือวางผังห้องเซิร์ฟเวอร์ให้มีการระบายอากาศดี จะช่วยลดค่าไฟได้เยอะในระยะยาว แถมยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
- ความปลอดภัยของข้อมูลและการปฏิบัติตามมาตรฐานข้อมูล คือ สมบัติล้ำค่าของธุรกิจ ถ้ารั่วไหลหรือตกไปอยู่ในมือผิดคน อาจเสียหายหนัก ทั้งชื่อเสียงและเงิน ดังนั้น Data Center ที่ดีต้องมี IT Network รักษาความปลอดภัย เช่น Firewall, การเข้ารหัสข้อมูล รวมถึงทำตามมาตรฐานอย่าง ISO 27001 หรือ GDPR ถ้าธุรกิจคุณเกี่ยวข้องกับต่างประเทศ เป็นต้น
สรุป
การลงทุนใน Data Center ไม่ใช่เพียงการเลือกซื้อเทคโนโลยี แต่เป็นการวางรากฐานที่มั่นคงให้กับธุรกิจในระยะยาว เพื่อรองรับการเติบโต ความยืดหยุ่น และการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของโลกดิจิทัล การวางแผนอย่างรอบคอบ เลือกโมเดลที่เหมาะสม และบริหารจัดการต้นทุนอย่างชาญฉลาด จะช่วยให้การลงทุน วางระบบ Network นี้ให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าและตอบโจทย์ธุรกิจได้อย่างแท้จริง
FAQ
1. ธุรกิจขนาดเล็กควรลงทุนใน Data Center เองหรือไม่
- ธุรกิจขนาดเล็กควรพิจารณาใช้ระบบ IT รูปแบบ Cloud หรือ Colocation มากกว่าสร้าง Data Center เอง เพื่อลดต้นทุนและความซับซ้อนในการดูแลระบบ
2. ความปลอดภัยของข้อมูลใน Data Center สำคัญแค่ไหน
- สำคัญมาก เพราะข้อมูลถือเป็นทรัพย์สินสำคัญของธุรกิจ ผู้ให้บริการ Data Center ต้องมีมาตรการรักษาความปลอดภัยทั้งทางกายภาพและดิจิทัลที่ได้มาตรฐาน
3. การใช้ Green Data Center มีผลอย่างไรต่อธุรกิจ
- ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานในระยะยาว และยังช่วยเสริมภาพลักษณ์ด้านความยั่งยืนขององค์กร ซึ่งระบบ IT เป็นจุดแข็งทางการแข่งขันในปัจจุบัน
เฮลโหลไพน์ (Hellopine) เราคือที่ปรึกษาด้านการ วางระบบ IT วางระบบ Wifi ที่ให้บริการ IT Services ครบวงจรสำหรับองค์กรธุรกิจและสำนักงานต่างๆ เราออกแบบและวางโครงสร้างระบบ IT ที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณโดยเฉพาะ ติดต่อ Hellopine เพื่อรับคำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญ โทร 02-100-5073 หรือ ติดต่อเรา ได้ทางเว็บไซต์ Hellopine.com
ให้ Hellopine ดูแลธุรกิจของคุณ ติดต่อ 02-100-5073 หรือ
ปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย