การติดตั้งสายแลนเป็นขั้นตอนสำคัญในการเชื่อมต่อระบบเครือข่าย ไม่ว่าจะเป็นในบ้าน ออฟฟิศ หรือพื้นที่กลางแจ้ง แต่สิ่งที่หลายคนอาจมองข้ามคือ เดินสายแลนตามสภาพอากาศ ทั้งความชื้นหรือโอกาสที่จะโดนน้ำซึ่งสามารถส่งผลต่อประสิทธิภาพและอายุการใช้งานเต็มๆ อย่าชะล่าใจมาอ่านบทความนี้เพื่อให้การติดตั้งสายแลนมีคุณภาพและเหมาะกับสภาพแวดล้อม พร้อมเรียนรู้การติดตั้งให้ปลอดภัยจากความชื้น
สาย LAN มีกี่ประเภท และแต่ละแบบต่างกันอย่างไร?
ก่อนติดตั้งสายแลนต้องรู้ว่าสาย LAN นั้นก็มีหลายประเภท ซึ่งแต่ละแบบถูกสร้างขึ้นมาเพื่อรองรับการใช้งานในสถานการณ์ที่ต่างกัน จึงทำให้แต่ละประเภทมีคุณสมบัติและลักษณะการใช้งานที่ไม่เหมือนกัน
1. สายแลน Cat5e
มาเริ่มต้นกันที่สายแลน Cat5e มักจะได้รับความนิยมนำมาติดตั้งสายแลนกันเป็นประจำ ซึ่งจะรองรับความเร็วได้สูงสุดถึง 1Gbps ได้ในระยะ 100 เมตร จึงเหมาะสำหรับการติดตั้งที่บ้านหรือสำนักงาน เรียกว่าเหมาะกับการการใช้งานทั่วไปที่ไม่ซับซ้อนแต่มีประสิทธิภาพ
2. สายแลน Cat6
ต่อมาเป็นสายแลน Cat6 ที่มีความสามารถแบบพัฒนามาระดับหนึ่งแล้ว เพราะถูกออกแบบมาให้ลดสัญญาณรบกวนได้ดีกว่าประเภท Cat5e และยังรองรับความเร็วสูงสุดถึง 10Gbps ในระยะ 55 เมตร ใครที่ทำงานในสำนักงานขนาดใหญ่หรือมีระบบเครือข่ายที่ใช้งานหนักกว่าปกติ ต้องการระบบแลนที่เสถียรเป็นพิเศษก็ควรเลือกใช้ประเภท Cat6 มากกว่า
3. สายแลน Cat6a
ต่อไปก็จะเป็นประเภท Cat6a เป็นสายแลนที่ถูกพัฒนาเพิ่มขึ้นมาอีก โดยสามารถรองรับความเร็ว 10Gbps ได้ในระยะที่ยาวถึง 100 เมตร พร้อมกับการป้องกันสัญญาณรบกวนที่มากขึ้นกว่าเดิม เพื่อให้พร้อมต่อสู้กับพื้นที่ที่มีอุปกรณ์เครือข่ายหนาแน่นที่อาจจะมีการส่งสัญญาณติดกันได้ เช่น ระบบแลนในอาคารสำนักงานหลายชั้น
4. สายแลน Cat7
อีกหนึ่งประเภทอย่าง Cat7 ที่นอกจากจะรองรับความเร็วสูงสุด 10Gbps ได้อย่างง่ายดายแล้ว แถมยังมีวัสดุป้องกันที่มาหุ้มสายแบบคู่เพิ่มการป้องกันสัญญาณรบกวนมากขึ้น เหมาะมากสำหรับสถานที่ที่มีสัญญาณรบกวนสูง เช่น ห้องประชุมใหญ่ที่ต้องการการเชื่อมต่อแบบไม่มีสะดุด
5. สายแลน Cat8
สุดท้ายคือประเภท Cat8 ที่ถือว่าเป็นสายแลนระดับสูงสุด ที่สามารถรองรับความเร็วได้สูงสุดถึง 40Gbps ในระยะ 30 เมตร เหมาะสำหรับการติดตั้งระบบแลนในเครือข่ายที่ต้องการความเร็วสูงมาก อย่างการเชื่อมต่อระหว่างเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่หรืออุปกรณ์เก็บข้อมูลระดับสูง
สาย LAN ประเภทไหน ทนทานต่อน้ำได้ดีที่สุด?
มาถึงคำถามที่หลายคนยังคงสงสัยอยู่ว่าสาย LAN ประเภทไหนกันแน่ที่ทนทานต่อน้ำ คำตอบง่ายๆ ก็คือ “สายแบบ Outdoor” เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ยิ่งสายที่มีคุณสมบัติแบบเจาะจงอย่าง Weatherproof หรือ Waterproof เพราะได้ถูกออกแบบมาเพื่องานภายนอกเตรียมเจอสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อย รวมถึงประเภทที่มีวัสดุหุ้มสาย PE (Polyethylene) ก็จะยิ่งช่วยป้องกันความชื้น แสงแดด และการกัดกร่อนได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ให้ดูสายแลนบางประเภทว่ามีเจลหรือสารเคลือบกันน้ำชั้นในของสายหรือเปล่า เพราะก็จะเป็นการช่วยเพิ่มการป้องกันน้ำได้อีกขั้นหนึ่ง อีกทั้งถ้ามีการหุ้มชั้น Shield (STP) เพื่อป้องกันสัญญาณรบกวนด้วยแล้วก็จะเพิ่มประสิทธิภาพให้ระบบแลนเข้าไปอีก ตัวอย่างที่นิยมใช้กันคือสายแลนประเภท Cat6 Outdoor UTP/STP ที่มีคุณสมบัติป้องกัน
วิธีติดตั้งให้ปลอดภัยจากความชื้น
ถึงแม้จะได้ประเภทสายที่เหมาะสมจะติดตั้งสายแลนแล้วก็ตาม ก็ยังต้องให้ความสำคัญในขั้นตอนการติดตั้งอีกด้วย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความชื้นสูงที่ต้องใส่ใจโดยการใช้ท่อร้อยสายที่มีความทนทาน อย่างท่อ PVC หรือ PE ที่สามารถป้องกันความชื้นจากภายนอก อีกทั้งยังต้องหลีกเลี่ยงการติดตั้งในพื้นที่ต่ำที่มีน้ำขังง่ายอีกด้วย
นอกจากนี้การติดตั้งสายแลนในส่วนของข้อต่อของสายที่ควรจะพันด้วยเทปกันน้ำให้แน่นหนา และใช้อุปกรณ์เสริมอย่างปลั๊กกันน้ำหรือกล่องเชื่อมสายที่ปิดสนิทเป็นการช่วยป้องกันน้ำไม่ให้เข้าไปถึงตัวสายแลนได้ด้วย หลังจากนั้นก็อย่าลืมตรวจสอบความเรียบร้อยปิดท้ายการติดตั้งด้วย
สรุป
ถ้าเริ่มดีก็มีชัยไปกว่าครึ่งอย่างการเลือกสายแลนให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมตั้งแต่การติดตั้งระบบแลน เพราะไม่ใช่แค่เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องของอายุการใช้งานที่จะสามารถหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นและช่วยลดต้นทุนในการซ่อมบำรุงในอนาคตได้เป็นอย่างดี ดังนั้นควรการเลือกสายแลนแบบ Outdoor หรือสายที่มีคุณสมบัติในการกันน้ำถึงจะเรียกได้ว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างแท้จริง
FAQ เกี่ยวกับการเดินสายแลน
สาย LAN แบบไหนใช้ภายนอกอาคารได้ดีที่สุด?
แน่นอนว่าจะต้องเป็นสาย Outdoor หรือสายที่มีคุณสมบัติ Weatherproof เพราะได้ถูกออกแบบมาเพื่อทนต่อสภาพอากาศที่แปรปรวนเกิดจะคาดการณ์ ไม่ว่าจะแดดจัด ฝนตก หรือพื้นที่ที่มีความชื้นสูง เพราะมีการหุ้มด้วยวัสดุ PE (Polyethylene) ทนทานหรือบางรุ่นมีการเติมเจลกันน้ำเข้าไปภายในด้วยเพื่อป้องกันน้ำซึมเข้าสาย ทำให้สามารถติดตั้งสายแลนในสภาพแวดล้อมที่หลากหลายได้ดี
ถ้าใช้สาย LAN ธรรมดาในที่ชื้น จะมีผลเสียอะไรบ้าง?
แน่นอนว่าจะกระทบต่อการส่งสัญญาณ เพราะความชื้นที่ซึมผ่านเข้าไปจะทำลายโครงสร้างภายใน อย่างเช่น ตัวนำไฟฟ้า จึงทำให้คุณภาพของสัญญาณลดลงหรือขาดการเชื่อมต่อไปเลย อีกทั้งสายแลนยังมีโอกาสเสื่อมสภาพเร็วขึ้นหรือแม้แต่การเกิดสนิมที่ตัวนำไฟฟ้า เพราะความไม่ทนทานของวัสดุหุ้มสายที่อาจเปราะหรือแตกร้าวเมื่อสัมผัสน้ำและความชื้นอย่างต่อเนื่อง จนต้องเปลี่ยนสายบ่อยๆ ทำให้เสียค่าใช้จ่ายในการติดตั้งสายแลนครั้งแล้วครั้งเล่า
สาย LAN ที่กันน้ำได้ ต้องดูจากอะไร?
ดูได้จากวัสดุหุ้มภายนอกว่าเป็น PE (Polyethylene) หรือ PVC ชนิดที่ออกแบบมาให้ทนต่อความชื้น รังสี UV และการกัดกร่อนหรือเปล่า หรือเป็นประเภทที่มีเจลภายในสายช่วยป้องกันไหม อีกทั้งยังสามารถดูตรงมาตรฐาน IP Rating ที่บ่งบอกว่าสามารถรับรองการกันน้ำได้ สุดท้ายเลือกติดตั้งสายแลนแบบ STP หรือ FTP ที่สามารถป้องกันสัญญาณรบกวนในสภาพแวดล้อมที่วุ่นวายได้สูงด้วย
เฮลโหลไพน์ (Hellopine) เราคือที่ปรึกษาด้านการ วางระบบ IT วางระบบ Wifi ที่ให้บริการ IT Services ครบวงจรสำหรับองค์กรธุรกิจและสำนักงานต่างๆ เราออกแบบและวางโครงสร้างระบบ IT ที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณโดยเฉพาะ ติดต่อ Hellopine เพื่อรับคำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญ โทร 02-100-5073 หรือ ติดต่อเรา ได้ทางเว็บไซต์ Hellopine.com
ให้ Hellopine ดูแลธุรกิจของคุณ ติดต่อ 02-100-5073 หรือ
ปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย