ในโลกที่ดิจิทัลกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเรา ภัยคุกคามออนไลน์ เช่น มัลแวร์ เพิ่มสูงขึ้นอย่างน่ากังวล ส่งผลต่อทั้งผู้ใช้ทั่วไปและองค์กร หากไม่ป้องกันอาจนำไปสู่ความเสียหายร้ายแรง บทความนี้เลยจะมาบอกว่าเราสามารถป้องกันมัลแวร์ได้อย่างไรบ้าง
มัลแวร์คืออะไร?
มัลแวร์ คือ ซอฟต์แวร์อันตราย (Malicious Software) ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อแทรกแซง ระบบ IT ทำลายข้อมูล หรือขโมยข้อมูลสำคัญ โดยคำว่ามัลแวร์ มาจากการผสมระหว่าง “Malicious” (ประสงค์ร้าย) และ “Software” (ซอฟต์แวร์) ซึ่งสะท้อนถึงจุดประสงค์ของมันอย่างชัดเจน
เพราะจุดประสงค์หลักของมัลแวร์ คือ การขโมยข้อมูลส่วนตัว เช่น รหัสผ่าน ข้อมูลบัตรเครดิต หรือไฟล์สำคัญ การทำลายระบบเพื่อให้ ระบบ IT ใช้งานไม่ได้ และการเรียกค่าไถ่ (Ransomware) ซึ่งผู้ไม่หวังดีจะล็อกไฟล์ในเครื่องและเรียกเงินเพื่อปลดล็อก มัลแวร์ สามารถเข้าสู่เครื่องของเราได้หลากหลายช่องทาง เช่น การดาวน์โหลดไฟล์ที่ไม่น่าเชื่อถือ การคลิกลิงก์ปลอม หรือการใช้ บริการ IT ที่ไม่ได้มาตรฐาน
มัลแวร์ยังถูกใช้เพื่อสอดแนมพฤติกรรมของผู้ใช้ หรือฝังตัวเพื่อโจมตีในอนาคต องค์กรที่มีการใช้งาน ระบบ IT ควรมีการ ติดตั้งระบบ IT ที่ปลอดภัย พร้อมทีม IT Services ที่คอยตรวจสอบและป้องกันอยู่เสมอ การละเลยการป้องกัน มัลแวร์อาจส่งผลให้ข้อมูลรั่วไหล อาจทำให้การทำงานสะดุด และเสียหายทั้งชื่อเสียงและค่าใช้จ่าย ดังนั้น การเข้าใจ มัลแวร์ และมีวิธีการป้องกันที่ดี จึงเป็นสิ่งที่ธุรกิจทุกขนาดควรให้ความสำคัญ
ประเภทของมัลแวร์ (Types of Malware)
มัลแวร์ มีหลายประเภท แต่ละแบบมีวิธีการทำงานและผลกระทบที่แตกต่างกัน การเข้าใจประเภทของ มัลแวร์ จะช่วยให้ธุรกิจสามารถวางแผนการป้องกัน ระบบ IT ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะแบ่งเป็น 6 ประเภทดังนี้
- ไวรัส (Virus) เป็นมัลแวร์ที่แฝงตัวเข้ากับไฟล์หรือโปรแกรม เมื่อเปิดใช้งาน ไวรัสจะเริ่มทำงานและแพร่กระจายไปยังไฟล์อื่น ๆ ทำให้ ระบบ IT ทำงานผิดพลาด หรือเสียหาย
- เวิร์ม (Worm) สามารถแพร่กระจายตัวเองผ่านเครือข่ายโดยไม่ต้องพึ่งพาไฟล์ใด ๆ ทำให้ระบบเครือข่ายช้าลงและล่มได้
- โทรจัน (Trojan) มักมาในรูปแบบโปรแกรมที่ดูปลอดภัย แต่เมื่อเราติดตั้ง จะเปิดช่องให้แฮกเกอร์เข้าควบคุมอุปกรณ์และขโมยข้อมูล
- แรนซัมแวร์ (Ransomware) จะเข้ารหัสไฟล์สำคัญและเรียกค่าไถ่เพื่อปลดล็อก หากไม่มีระบบ IT Services ที่แข็งแรง ธุรกิจอาจเสียหายหนัก
- สปายแวร์ (Spyware) แอบเก็บข้อมูลส่วนตัว เช่น รหัสผ่าน หรือพฤติกรรมการใช้งานอินเทอร์เน็ต
- แอดแวร์ (Adware) แสดงโฆษณาที่น่ารำคาญและอาจแฝงมัลแวร์อื่น ๆ มาโดยที่เราไม่รู้ตัว
การติดตั้งระบบ IT ที่ปลอดภัย และมี IT Services ดูแลระบบอย่างใกล้ชิด จะช่วยป้องกันภัยคุกคามเหล่านี้ได้อย่างดีเยี่ยมมากขึ้น
วิธีการทำงานของมัลแวร์ (How Malware Works)
วิธีการทำงานของมัลแวร์นั้นซับซ้อนและอันตรายมากกว่าที่คิดเพราะมันสามารถเข้าสู่ ระบบ IT ได้หลายช่องทางและก่อให้เกิดความเสียหายมหาศาลหากไม่มีการป้องกันที่ดี
มัลแวร์มักเข้าสู่อุปกรณ์ผ่านอะไรได้บ้าง
- อีเมลฟิชชิ่งที่แฝงลิงก์ หรือไฟล์แนบอันตราย หากผู้ใช้เผลอคลิกหรือดาวน์โหลด ไฟล์นั้นจะติดตั้งมัลแวร์ทันที
- เว็บไซต์ที่ไม่ปลอดภัย เมื่อเราเข้าเว็บที่มีมัลแวร์แฝงอยู่ ระบบอาจถูกโจมตีโดยไม่รู้ตัว การ
- การดาวน์โหลดซอฟต์แวร์เถื่อน หรือไฟล์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือก็เป็นอีกวิธีที่มัลแวร์ใช้เจาะเข้าสู่ ระบบ IT ได้
ตัวอย่างการโจมตีที่เคยเกิดขึ้น
WannaCry Ransomware ในปี 2017 ที่โจมตีระบบคอมพิวเตอร์ทั่วโลกกว่า 200,000 เครื่อง เรียกค่าไถ่เป็น Bitcoin และสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจมหาศาล อีกกรณีคือ Stuxnet Worm ที่ถูกออกแบบมาเพื่อทำลายระบบควบคุมของโรงงานนิวเคลียร์ในอิหร่าน ทำให้ระบบเสียหายอย่างหนัก
การมี IT Services ที่ช่วยดูแลและ ติดตั้งระบบ IT อย่างปลอดภัย จะช่วยป้องกัน มัลแวร์ และลดความเสี่ยงที่อาจส่งผลต่อธุรกิจในอนาคตได้
อันตรายของมัลแวร์ (Risks of Malware)
อันตรายของมัลแวร์ เป็นเรื่องที่ทุกคนควรตระหนัก เพราะภัยคุกคามนี้สามารถสร้างความเสียหายได้ทั้งในระดับบุคคลและองค์กร โดยเฉพาะในยุคที่ ระบบ IT มีบทบาทสำคัญต่อการดำเนินชีวิตและธุรกิจ
สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป มัลแวร์สามารถขโมยข้อมูลส่วนตัวได้ เช่น รหัสผ่าน ข้อมูลบัตรเครดิต หรือแม้กระทั่งข้อมูลทางการเงิน การโจมตีผ่านแรนซัมแวร์ อาจทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถเข้าถึงไฟล์สำคัญได้จนกว่าจะจ่ายค่าไถ่ ซึ่งนอกจากจะเสียเงินแล้วยังเสียเวลาและความปลอดภัยอีกด้วย
ในระดับ องค์กร ผลกระทบจากมัลแวร์อาจร้ายแรงยิ่งกว่านั้น เพราะอาจกระทบกับข้อมูลสำคัญ เช่น ข้อมูลลูกค้า แผนธุรกิจ หรือข้อมูลทางการเงิน อาจรั่วไหล ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียง ความน่าเชื่อถือ และอาจทำให้ลูกค้าขาดความมั่นใจใน บริการ IT ขององค์กร การโจมตีด้วย มัลแวร์ อาจทำให้ระบบล่ม ส่งผลให้ธุรกิจหยุดชะงักและสูญเสียรายได้อย่างมหาศาล
นอกจากนี้ ความเสียหายทางเศรษฐกิจ จากมัลแวร์นั้นมีมูลค่ามหาศาล ยกตัวอย่างเช่น การโจมตีของ WannaCry Ransomware ในปี 2017 ที่สร้างความเสียหายทั่วโลกถึง 4 พันล้านดอลลาร์ที่กล่าวไปข้างต้น เพราะฉะนั้นการลงทุนใน IT Services และการ ติดตั้งระบบ IT ที่ปลอดภัยจึงเป็นเรื่องจำเป็นในการป้องกัน มัลแวร์ และลดความเสี่ยงต่อธุรกิจในยุคดิจิทัลได้
วิธีป้องกันมัลแวร์ (How to Protect Against Malware)
วิธีป้องกันมัลแวร์เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ใช้ทุกคนควรรู้และปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ เพื่อปกป้องข้อมูลและ ระบบ IT จากการโจมตีที่อาจสร้างความเสียหายอย่างมหาศาล ซึ่งมีวิธีป้องกัน 4 วิธีดังนี้
- การติดตั้งซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัส
ควรเลือกใช้โปรแกรมที่มีความน่าเชื่อถือ เช่น Kaspersky, Bitdefender หรือ Norton และต้องอัปเดตฐานข้อมูลไวรัสอยู่เสมอ เพราะ มัลแวร์ มีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การอัปเดตจะช่วยให้โปรแกรมสามารถตรวจจับและกำจัดมัลแวร์ใหม่ ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- หลีกเลี่ยงการคลิกลิงก์หรือดาวน์โหลดไฟล์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ
ตรวจสอบที่มาของอีเมล โดยเฉพาะอีเมลฟิชชิ่งที่มักปลอมแปลงเป็นองค์กรหรือบุคคลที่น่าเชื่อถือ หากไม่แน่ใจควรหลีกเลี่ยงการคลิกและการดาวน์โหลดไฟล์
การอัปเดตระบบปฏิบัติการและแอปพลิเคชัน
เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยปิดช่องโหว่ที่ มัลแวร์อาจใช้โจมตี การใช้ระบบปฏิบัติการที่ล้าสมัยอาจทำให้เสี่ยงต่อการถูกโจมตีได้ง่ายขึ้น การอัปเดตจะช่วยเสริมความปลอดภัยให้กับ ระบบ IT ของคุณอีกด้วย
การสำรองข้อมูลเป็นประจำ
ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนตัว หรือข้อมูลธุรกิจ การสำรองข้อมูลจะช่วยให้คุณสามารถกู้คืนข้อมูลได้หากตกเป็นเหยื่อของ แรนซัมแวร์ หรือมัลแวร์ประเภทอื่น ๆ การใช้ IT Services ในการ ติดตั้งระบบ IT และวางแผนสำรองข้อมูลอย่างเป็นระบบ จะช่วยลดความเสี่ยงและปกป้องข้อมูลสำคัญได้
สรุป
การป้องกัน มัลแวร์ ไม่ใช่แค่เรื่องของการติดตั้งโปรแกรม แต่คือการสร้างความปลอดภัยให้กับทุกส่วนของ ระบบ IT ไม่ว่าจะเป็นการอัปเดตซอฟต์แวร์ การใช้ IT Services ในการตรวจสอบและดูแลระบบอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการสำรองข้อมูลเพื่อรับมือกับสถานการณ์ไม่คาดฝัน การตระหนักรู้ถึงภัยคุกคามดิจิทัลและการปฏิบัติตามแนวทางความปลอดภัย เช่น การหลีกเลี่ยงการดาวน์โหลดไฟล์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ จะช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกโจมตีได้เพราะการ ติดตั้งระบบ IT ที่ปลอดภัยและการวางแผนป้องกันที่ดี จะช่วยให้คุณและองค์กรปลอดภัยจากมัลแวร์และภัยคุกคามทางไซเบอร์ในยุคดิจิทัล
FAQ
มัลแวร์เข้าสู่อุปกรณ์ได้อย่างไร?
- ผ่านอีเมลฟิชชิ่ง เว็บไซต์ที่ไม่ปลอดภัย หรือการดาวน์โหลดไฟล์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ
จะรู้ได้อย่างไรว่าอุปกรณ์ติดมัลแวร์?
- อุปกรณ์ทำงานช้าลง มีโฆษณาแปลก ๆ ปรากฏขึ้น หรือมีการใช้งานข้อมูลที่ไม่ทราบสาเหตุ
ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสเพียงพอที่จะป้องกันมัลแวร์หรือไม่?
- ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสช่วยได้มาก แต่การระมัดระวังในการใช้งานอินเทอร์เน็ตก็สำคัญเช่นกัน
มัลแวร์กับไวรัสต่างกันอย่างไร?
- ไวรัสเป็นประเภทหนึ่งของมัลแวร์ ซึ่งมัลแวร์ครอบคลุมโปรแกรมที่เป็นอันตรายทุกประเภท
สามารถใช้ซอฟต์แวร์ฟรีป้องกันมัลแวร์ได้หรือไม่?
- ได้ แต่ควรเลือกซอฟต์แวร์จากผู้พัฒนาที่น่าเชื่อถือ
เฮลโหลไพน์ (Hellopine) บริการที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีที่ให้บริการโซลูชันไอทีครบวงจรสำหรับองค์กรธุรกิจและสำนักงานต่างๆ เราออกแบบและวางโครงสร้างระบบ IT ที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณโดยเฉพาะ ติดต่อ Hellopine เพื่อรับคำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญ โทร 02-100-5073 หรือทางเว็บไซต์ www.hellopine.com